แค้นเกย์เพราะโดนพ่อข่มขืน
สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้เก่งยืนตัวลีบอยู่ในที่พักผู้โดยสารบริเวณป้ายรถประจำทาง หน้าสวนสาธารณะกลางกรุง เด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัด กระสับกระส่ายเขาเกลียดฝน ทั้งเกลียด…ทั้งกลัว โดยเฉพาะ ฝนที่ตกกระหน่ำในยามดึกเช่นนี้มันจะชักนำภาพอันน่ากลัวในอดีต ให้ผุดขึ้นมาหลอกหลอนเขาทุกครั้ง ตอนนั้น เก่งอายุ ๑๓ ปี อาศัยอยู่กับพ่อ เก่งต้องอยู่กับพ่อเพียงลำพังสองคน
ภายหลังที่แม่ได้จากเก่งไปด้วยโรคลมชัก เก่งช่วยพ่อทำนาอย่างขยันขันแข็ง เมื่อว่างเว้นจากนา เก่งก็รับจ้างทำงานทั่วไปเท่าที่เด็กชายอายุ ๑๓ ปีจะทำได้ คืนนั้น ฝนตกหนักเหมือนเช่นคืนนี้ เก่งกลับจากเที่ยวงานวัด นอนฟังเสียงฝนที่ตกกระทบหลังคาบ้านส่วนพ่อของเก่งยังคงตั้งวงเหล้า ดื่มกินอยู่กับเพื่อนๆ ที่วัด เก่งหลับไปนานเท่าใดไม่ทราบได้ รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพ่อเดินขึ้นเรือน เก่งจำฝีเท้าของพ่อได้ เก่งจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูรับ
ลมเย็น…เคล้าละอองฝน พัดวูบกระทบใบหน้า พ่อเซเข้ามาเกาะขอบประตูบ้าน กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง ร่างเปียกโชกไปทั้งตัวเก่งตรงเข้าไปประคอง ค่อยๆ พาพ่อเข้าไปนั่งบนเสื่อพร้อมๆ กับที่พ่ออาเจียนออกมาเลอะเทอะไปทั่ว ตั้งแต่แม่ของเก่งจากไป พ่อดื่มจัดกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อมีงานวัด เก่งลงจากเรือน ตักน้ำฝนในตุ่มมาราดตัว ล้างคราบอาเจียน ตักน้ำในตุ่มอีกหนึ่งขัน แล้วจึงกลับขึ้นเรือน พ่อนอนแผ่หราอยู่บนเสื่อ ท่าจะเมาเต็มที่
“เมาหนักขนาดนี้ ทำไมพ่อจึงกลับบ้านได้” เก่งอดนึกสงสัยไม่ได้ ครั้นเมื่อทราบคำตอบ…ทุกอย่างก็สายเกินไป
พ่อยังคงนอนอย่างไม่รู้สึกตัว เก่งค่อยๆถอดเสื้อของพ่อออก เอาเสื้อเก่าของแม่ชุบน้ำพอหมาดๆ เริ่มเช็ดเนื้อตัวที่เลอะเทอะของพ่อ ทันใดนั้นเอง พ่อก็ผุดลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับคว้าตัวเก่งไปกอด เก่งตกใจ พลางดิ้นรนขัดขืน ทั้งผลักทั้งดัน แต่ยิ่งดิ้น พ่อก็ยิ่งกอดรัดแน่นกว่าเดิม ทั้งยังใช้ขาเกี่ยวร่างของเก่งไว้แน่น ราวกับงูเหลือมกำลังรัดลูกไก่
แรงเด็กหรือจะสู้แรงผู้ใหญ่ ไหนจะกลิ่นเหล้าที่ชวนให้คลื่นเหียน เก่งต้องเบือนหน้าหนี พร้อมกับกลั้นลมหายใจ “ปล่อยนะพ่อ…เก่งเจ็บ เก่งหายใจไม่ออก!” เก่งร้องลั่น ดิ้นรนอย่างสุดฤทธิ์ “อย่าดิ้นสิ… อยู่เฉยๆ” เสียงของพ่อกระเส่า ลมหายใจผ่าวร้อน “ปล่อยเก่งนะ! ปล่อย!” เก่งตะโกน ทั้งเตะทั้งถีบ แต่ไร้ประโยชน์ พ่อซุกใบหน้าเข้ากับซอกคอของเก่ง ไม่สนใจเสียงร้องห้ามแม้แต่น้อย เสียงหายใจของอาดังฟืดฟาด เก่งแทบอาเจียนกับกลิ่นเหล้าเหม็นๆ
เก่งดิ้นรนสุดแรงเกิดเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระ พ่อฉีกกระชากเสื้อผ้าของเก่งออก โดยไม่ฟังเสียงร้องห้ามปรามของเก่งแม้แต่น้อย “ช่วยด้วย!” เก่งร้องตะโกนจนสุดเสียง ทว่าเสียงฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ประกอบกับเป็นบ้านที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวใคร เล่าจะได้ยิน…? มีคนพูดว่า…คนเมาไม่มีเรียวแรง แต่คราวนี้ เห็นจะไม่จริง มือของพ่อที่จับแขนของเก่ง แข็งราวกับคีมยักษ์ ทั้งขาที่เกี่ยวกระหวัด แข็งแกร่งดังเหล็กกล้า
“พ่อจะทำอะไร? นี่เก่งนะพ่อ…” เก่งร้องเตือนสติผู้เป็นพ่ออย่างตื่นตระหนก แต่เหมือนอาจะไม่ได้ยิน พ่อยังคงซุกไซ้อย่างหื่นกระหาย อย่างไม่ลดละเก่งเหนื่อยหอบ และปวดแขนเหลือเกิน แรงขัดขืนต้านทานลดน้อยลงทุกขณะ.. “พ่อปล่อยเก่งเถอะ สงสารเก่งเถอะนะ อย่าทำเก่งเลย…เก่งกลัว” เก่งร้องไห้โฮ “กลัวก็อย่าดิ้นสิ… อยู่เฉยๆ!” พ่อพูดลอดไรฟัน “พ่อจะทำอะไร? เก่งไม่ใช่ผู้หญิงนะ เก่งเป็นผู้ชาย…เหมือนพ่อ!”
น้ำเสียงของเก่งขาดเป็นห้วงๆ รู้สึกเหนื่อยล้า แรงขัดขืนลดน้อยลงทุกที พ่อจับร่างของเก่งกดลงบนเสื่อ พร้อมกับทิ้งตัวลงทาบร่างของเก่ง กลิ่นเหล้าที่เหม็นคละคลุ้ง กลิ่นเหงื่ออันน่าสะอิดสะเอียนเก่งแทบกลั้นใจตาย…ด้วยความขยะแขยง “พ่ออย่าทำเก่ง…เก่งกลัว!” เก่งรู้สึกคลื่นไส้จะอาเจียน น้ำตาไหลพราก พ่อไม่ฟังเสียงใดๆ ทั้งสิ้น จับขาของเก่งแยกออกแล้วยัดเยียดความเป็นชาย เข้าไปในร่างกายของเก่ง…อย่างไร้ความปรานี
“โอ๊ย!” เก่งร้องออกมาสุดเสียง ร้องอย่างเจ็บปวดที่สุดในชีวิต! สวนทางกับเสียงร้องของผู้เป็นพ่อ ที่เป็นไปด้วยความสุขสม พ่อกระแทกท่อนเนื้อเข้าไปในร่างกายของเก่งอย่างไม่ปราณี กระแทกเข้าซ้ำๆ ขณะที่เก่งได้แต่นอนตัวเกร็งแข็งทื่อด้วยความเจ็บปวด เหงื่อของสองพ่อลูกไหลรวมปนกัน ในที่สุด เก่งก็สัมผัสได้ถึงความอุ่นจนร้อนที่หลั่งไหลเข้ามาในตัวเขาพ่อฟุบตัวลงทับร่างเก่ง ลมหายใจร้อนผ่าวของพ่อรินรดลงบนใบหน้าของเก่ง
ครืนนน… ครืนนน… เสียงฟ้าผ่า ทำให้ภาพในอดีตหายวับ หากเก่งยังยืนตื่นตระหนกอยู่ไม่หาย เด็กหนุ่มไม่อาจลบภาพเหตุการณ์นั้น ให้ออกไปจากใจของเขาได้สักที มันฝังแน่น…เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา! นับจากวันที่เก่งถูกพ่อข่มขืน จนถึงขณะนี้ ผ่านกว่า ๕ ปีแล้ว เด็กชายได้เติบโตเป็นหนุ่มวัย ๑๘ ปี หน้าตาคมคาย ดวงตากลมโตประดุจนิลชั้นดี ขนตางอนยาว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูป เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น ไม่ว่าหญิง…หรือชาย
ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยรูปร่างที่สูงได้สัดส่วน กล้ามเนื้อ และปีกอกอันงดงาม อีกทั้งกล้ามท้องเป็นลอนคลื่นสวยงาม ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นให้แก่เจ้าของเรือนร่างยิ่งขึ้น รถคันหรูแล่นมาอย่างช้าๆ เก่งจ้องมองด้วยอาการเตรียมพร้อม หากเป็นตำรวจ เขาจะได้ออกวิ่งหนีทัน ตำรวจมักหาเรื่องจับเด็กเร่ร่อนอย่างเขาเสมอ บางครั้งเก่งถูกจับ ต้องนอนในห้องขัง ๓ วันเพื่อ เป็นข้ออ้างในการพิจารณาความดีความชอบก่อนจะถูกปล่อยตัว โดยไม่ได้ลงบันทึกใดๆ
รถคันนั้นติดฟิล์มมืด จนมองไม่เห็นคนข้างใน แต่อย่างน้อยเก่งก็รู้ว่าไม่ใช่ตำรวจแน่ เพราะหากเป็นตำรวจ คนในรถต้องลงมาวิ่งไล่จับเขา ก่อนที่รถจะทันจอดสนิทเสียด้วยซ้ำ รถหรูแล่นมาหยุดตรงหน้าเก่ง กระจกหน้าต่างฝั่งซ้ายค่อยๆเลื่อนลงช้าๆ เก่งจึงมองเห็นหน้าคนขับได้ถนัดขึ้น เขาเป็นชายผิวดำแดง อยู่ในวัยกลางคน งานของเก่ง ทำให้เก่งต้องเรียนรู้ ศึกษาบุคลิกลักษณะของคน จนติดเป็นนิสัย
“ไอ้หนู มานี่ซิ…” ชายแปลกหน้าพูด พร้อมกับกวักมือเรียก ป้ายรถเมล์ยามนี้ มีเพียงเก่งคนเดียวเท่านั้น เด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาอย่างระมัดระวัง “จะไปไหนเหรอ ค่ำๆมืดๆอย่างนี้?” หนุ่มใหญ่แปลกหน้าเอ่ยปากถาม “ผมจะรอรถกลับบ้าน” เก่งตอบ มองเขาอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ “เข้ามานั่งในรถก่อน เปียกหมดแล้ว” ผู้เชื้อเชิญยิ้มอย่างปรานี ปลดล็อกประตูรถ
เก่งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูรถ ก้าวเข้าไปนั่งตอนหน้าคู่คนขับ พร้อมๆ กับที่สัญชาตญาณเตือนเด็กหนุ่มว่า…ชายคนนี้ไม่น่าไว้วางใจ! รถเก๋งคันงามเคลื่อนตัวออกจากป้ายรถเมล์ ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายไม่ขาดระยะ “บ้านอยู่ไหน? เดี๋ยวฉันไปส่ง” เก่งนึกอยู่แล้วว่าเขาจะต้องถามอย่างนี้ เก่งจึงตอบ…เหมือนอย่างที่เคยตอบคนอื่นๆ “ไม่เป็นไรครับ ปล่อยผมลงตรงไหนก็ได้ แค่ให้ผมติดรถมาด้วย ก็เป็นพระคุณมากแล้ว”
“เธอชื่ออะไร?” หนุ่มใหญ่เปลี่ยนคำถาม “ต้นครับ” เก่งตอบหน้าตาเฉย ทำงานแบบนี้ เก่งเตรียมชื่อเล่นไว้ล่วงหน้าเสมอ “พี่ชื่อชาติ” อีกฝ่ายแทนตัวเองว่าพี่ เพื่อผลทางจิตวิทยา ให้รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น เป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์…เก่งเข้าใจดี “หนาวเหรอ?” พี่ชาติถาม เมื่อเห็นเก่งนั่งกอดอก ขาสั่น “ครับ แอร์เย็นจัง…” เก่งตอบปากสั่น “เสื้อผ้าเปียกแฉะออกอย่างนี้…ก็ต้องหนาวน่ะสิ”
พูดจบ พี่ชาติก็เอื้อมมือไปหรี่แอร์ “ในเป้มีอะไรน่ะ?” พี่ชาติถามต่อ “เสื้อผ้าครับ” เก่งตอบ “หนีออกจากบ้านมาหรือ?” พี่ชาติซัก พลางปรายตามองเก่งแวบหนึ่ง “ครับ” เก่งตอบเบาๆ “ทำไมล่ะ?” คำถามนี้อีกแล้ว เก่งนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถาม “ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร ทุกคนมีความลับส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น แล้วมีเงินติดตัวบ้างไหม?” พี่ชาติพูดอย่างเข้าใจ เปลี่ยนคำถามอีกครั้ง เก่งส่ายหน้าแทนคำตอบ
“อยากได้เงินใช้บ้างไหม?” คนถามหันมามองหน้าเก่งขณะรถติดไฟแดง นัยน์ตาหนุ่มใหญ่เป็นประกายอีกครั้ง ที่สัญชาตญาณเตือนให้เก่งระวังตัว แววตาคู่นี้…ไม่น่าไว้วางใจ! “ผมต้องทำอะไรแลกเปลี่ยนหรือเปล่าครับ?” “เข้าใจเร็วดีนี่! ก็ไม่มีอะไรมาก…แค่ไปนอนกับพี่” พี่ชาติพูดเรียบๆ เก่งหลับตา พิงศีรษะกับพนักเก้าอี้ พร้อมกับถอนหายใจเบาๆ ภาพต่างๆ เริ่มพรั่งพรูเข้ามาอีกแล้ว พี่ชาติเป็นคนที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้…
คนที่ต้องการเรือนร่างของเก่งเพื่อบำบัดความใคร่ เมื่อสมใจแล้วก็เอาเงินฟาดหัว เก่งเกลียดเกย์ ขยะแขยงทุกสัมผัสที่พวกมันกระทำกับเรือยร่างของเขา แต่จะทำไงได้ เมื่อร่างกายของเขาคือสินค้าที่เป็นที่ปราถนา…..ทั้งต่อผุ้หญิง และผู้ชายและเขาออกจะดีใจกว่ามาก หากวันไหน เขาได้ลูกค้าที่เป็นผู้หญิง “ว่าไงล่ะ?” พี่ชาติถามย้ำ “ถ้าไม่อยากได้เงินใช้ก็ไม่เป็นไร พี่จะจอดให้ลงตรงป้ายข้างหน้า”
พี่ชาติเลี้ยวรถ ก่อนจะจอดเทียบป้ายรถเมล์ เก่งมองหน้าเขาอย่างลังเล “พี่จะให้ผมเท่าไหร่?” เก่งถาม “เราจะเอาเท่าไหร่ล่ะ?” พี่ชาติย้อนถาม “ถ้าค้างคืนด้วย…ผมขอพันห้า” เก่งบอกเงื่อนไข “โอ.เค.” หนุ่มใหญ่ตอบตกลง รถเก๋งคันงามพุ่งฝ่าความมืดยามรัตติกาล ก่อนจะเลี้ยวเข้าโรงแรมระดับกลางแห่งหนึ่ง ย่านชานเมืองของกรุงเทพมหานคร
พี่ชาติเดินนำไปที่เคาน์เตอร์ของโรงแรม
เก่งสะพายเป้เดินตามหลัง พลางสังเกตหนุ่มใหญ่โดยละเอียด พี่ชาติสวมเสื้อแขนยาวพับแขนราคาแพง กางเกงยี่ห้อดัง นาฬิกาข้อมือเรือนทอง ปากกาด้ามทองเหน็บติดกระเป๋าเสื้อเชิ้ต ยังไม่นับรวมเลสทองคำที่ข้อมือ เก่งประมาณด้วยสายตาว่า…หนักไม่น้อยกว่า ๓ บาท เก่งเดาว่าพี่ชาติคงใส่สร้อยคอทองคำด้วยพร้อมกับพระเลี่ยมทอง น้ำหนักน่าจะใกล้เคียงกับเลสข้อมือ…อย่างไม่ต้องสงสัย
พนักงานที่เคาน์เตอร์ และบ๋อยโรงแรม มองพี่ชาติกับเก่งด้วยสายตาแปลกๆ เก่งสวมเสื้อยืด กางเกงยีนเก่าๆ พร้อมด้วยเป้สะพายหลังสีดำคร่ำคร่า ช่างตรงกันข้ามกับหนุ่มใหญ่เสียเหลือเกิน เก่งชินชากับสายตาแปลกๆแบบนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เก่งถูกผู้ชายหิ้วมาร่วมหลับนอน และเก่งแน่ใจว่า…ไม่ใช่ครั้งแรกของพี่ชาติเช่นกัน ทิปใบละร้อย พร้อมคำสั่ง “ห้ามรบกวน!” ทำให้บ๋อยเปลี่ยนสีหน้า และแววตาในทันที
บ๋อยยิ้มกว้าง และโค้งให้อย่างงาม ก่อนจะรีบหันหลังเดินจากไปเก่งมองไปรอบห้องด้วยความเคยชิน แต่แล้วก็ต้องชะงัก…เมื่อสบสายตากับพี่ชาติดวงตาของพี่ชาติมีแววประหลาดฉายขึ้นวูบหนึ่ง เก่งไม่ทราบว่าแววตานั้นหมายถึงอะไร แต่สัญชาตญาณบอกกับเก่งว่า…แววตาของพี่ชาติไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย! แววตาของพี่ชาติ ไม่เหมือนกับแววตาคู่อื่นที่เก่งเคยพบเห็น
ส่วนใหญ่แล้ว แววตาของคนอื่นๆ มักจะเต็มไปด้วยความหื่นกระหายแต่แววตาของพี่ชาติหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ บางครั้ง พี่ชาติกลับเป็นฝ่ายหลบสายตาเก่งเสียเองจนเก่งอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ “ทำไมต้นถึงมองพี่อย่างนั้น?” พี่ชาติถามตรงๆ “ไม่รู้สิครับ” เก่งตอบ พร้อมกับยักไหล่ “พี่ชาติไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เคยพาผมมานอน” “ไม่เหมือนยังไง?” พี่ชาติถามต่อ “ก็…ส่วนมากเวลาเขาพาผมมา เขาก็…” เก่งหยุดกลืนน้ำลาย
“ก็…แทบจะไม่ให้ผมได้ทันตั้งตัวเลย ไม่รู้ว่าอดอยากมาจากไหน” “อ๋อ…” พี่ชาติหัวเราะจนเห็นฟันขาว “ก็เรามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งคืน ไม่เห็นจะต้องรีบร้อน…” “พี่จะอาบน้ำก่อนไหมครับ?” เก่งเปลี่ยนเรื่องคุย วางแผนบางอย่างในใจ “ก็ดีเหมือนกัน…” พี่ชาติเห็นพ้อง ถอดเสื้อ และกางเกง เปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว รูปร่างของหนุ่มใหญ่จัดว่าล่ำสันทีเดียว กล้ามแขนเป็นมัด กล้ามอก ไหนจะกล้ามท้อง
ต้องเป็นคนที่บริหารร่างกายอยู่เสมอ จึงสามารถมีรูปร่างเช่นนี้ได้ ขณะที่พี่ชาติเข้าไปอาบน้ำ เก่งก็รีบค้นดูกระเป๋ากางเกงของหนุ่มใหญ่ทันที หยิบกระเป๋าสตางค์มาเปิดดู มีแบงค์พันเป็นฟ่อน ประมาณคร่าวๆ ไม่ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ บาทแต่สิ่งที่เก่งค้นหาไม่ใช่เงิน หากแต่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าพี่ชาติเป็นใคร และมีอาชีพอะไรต่างหาก แต่แม้เก่งจะค้นหาอย่างไรก็หาไม่พบ ไม่พบแม้แต่นามบัตรหรือบัตรเครดิต
เก่งรีบเก็บทุกอย่างเข้าที่ เมื่อเห็นว่าพี่ชาติใกล้จะอาบน้ำเสร็จแล้ว พี่ชาติยิ้มให้เก่งเมื่อออกจากห้องน้ำ พร้อมกับบอกให้เก่งไปอาบน้ำบ้าง ในห้องน้ำ เก่งมองเรือนร่างของตัวเองในกระจกบานใหญ่ที่แขวนอยู่ไม่รู้ว่าการที่เขาเกิดมามีรูปร่าง หน้าตาดี เขาควรจะดีใจหรือเสียใจ? เพราะหากเก่งไม่มีรูปร่าง และหน้าตาแบบนี้ ก็คงไม่มีใครมอง และหากินแบบนี้ไม่ได้
ประการสำคัญ อันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด หากไม่ใช่เพราะรูปร่าง และหน้าตาที่ดึงดูดใจ พ่อก็คงไม่ต้องปลุกปล้ำ และขืนใจเขา ผลักดันให้เขาต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางสายนี้ เมื่อเก่งออกจากห้องน้ำ พี่ชาติครึ่งนั่งครึ่งนอนรอเก่งอยู่บนเตียงโทรทัศน์ที่วางอยู่หน้าเตียงนอน กำลังฉายวิดีโอเอ็กซ์ของเกย์อยู่ โรงแรมแห่งนี้ท่าจะรู้ใจแขกที่มาพัก จึงมีหนังทุกประเภทฉายให้แขกได้เลือกดู
“ต้นอายุเท่าไหร่แล้ว?” พี่ชาติถาม ขณะที่เก่งกำลังเช็ดตัว “๑๘ ครับ” เก่งตอบ ไม่ได้หันกลับไปมองคนถาม “อะไรๆ ดูไม่เด็กเลยนะ ว่าแต่… ต้นเคยอ่านข่าวเกย์ถูกฆ่าชิงทรัพย์ไหม?” พี่ชาติถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เก่งสะดุ้งเฮือก…หันขวับไปมองคนถาม แต่พี่ชาติเหมือนจะสนอกสนใจอยู่แต่วิดีโอ เหมือนไม่ได้สนใจกับคำตอบของเก่ง “เคยเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ เป็นยังไงบ้างครับ? ผมไม่ได้อ่านรายละเอียด ดูผ่านๆ แค่พาดหัวข่าว” เก่งตอบ น้ำเสียงปรกติ
“ก็เกย์แบบพี่นี่แหละ…พาเด็กไปนอน พอหลับนอนกันเสร็จก็ถูกฆ่า เอาของไปเกลี้ยง” พี่ชาติพูดเรื่อยๆ ตายังคงจ้องมองวิดีโอที่กำลังแสดงบทพิศวาสกันอยู่ “แล้วพี่ไม่กลัวหรือครับ?” เก่งแกล้งยั่ว ขณะทรุดตัวลงนั่งบนเตียง พี่ชาติคว้าร่างของเก่งไปกอดแวว ตาดูใสซื่อ…แนบเนียน “กับต้น พี่ไม่กลัวหรอก พี่รู้ว่าต้นไม่ใช่คนแบบนั้น จริงไหม?” แววตาของพี่ชาติเริ่มเปลี่ยน… เป็นครั้งแรก ที่เก่งมองเห็นแววหื่นกระหาย ภายในดวงตาของหนุ่มใหญ่
พี่ชาติโอบกอดเก่ง จูบแผ่วเบาที่หน้าผาก มือข้างหนึ่งโลมไล้เรือนร่างเนียนแน่น บีบหน้าอกเบาๆ เก่งส่งเสียงครางในลำคอ ในบรรดาแขกที่เคยพาเก่งมานอนด้วย น้อยคนนัก ที่จะสร้างอารมณ์ร่วมให้แก่เก่ง ส่วนใหญ่ เก่งจะแกล้งทำเป็นมีอารมณ์เพื่อให้ “เหยื่อ” ตายใจ ลีลาของพี่ชาติ นับว่าเจนจัดไม่เบา “ทำให้พี่บ้างสิ…” พี่ชาติกระซิบข้างหูเก่ง “ได้เลยครับ” เก่งรับคำ เด็กหนุ่มเชี่ยวชาญใช้ปากไม่แพ้พี่ชาติ
ประสบการณ์จากเหยื่อคนก่อน สอนเขาจนเก่งสมชื่อ ทุกคนที่เคยร่วมหลับนอนกับเก่ง ล้วนได้รับการปรนเปรออย่างถึงอกถึงใจ พี่ชาติส่งเสียงครวญครางไม่ขาดระยะ “ต้น…พี่อยากได้หลังบ้านของต้น” พี่ชาติพูด น้ำเสียงกระเส่า… เก่งอาสาของสวมถุงยางให้พี่ชาติ และทาครีมนำทางที่ประตูหลังของตัวเอง พี่ชาติจับขาของเก่งแยกออก ก่อนจะสอดความเป็นชาย เข้าไปในตัวของเก่งอย่างช้าๆ
ฉับพลันนั้นเอง ภาพอดีตอันน่ากลัว…ก็หวนกลับมาหลอกหลอนเก่งอีกครั้งเก่งสั่นศีรษะ พยายามไล่มันออกไปจากหัว “เจ็บหรือ?” พี่ชาติถาม น้ำเสียงกังวล “ของพี่ใหญ่กว่าทุกคนที่ผมเคยรับ” เก่งพยักหน้า สีหน้าแสดงความเจ็บปวด เด็กหนุ่มมีความรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ พี่ชาติหยุดครู่หนึ่งจึงค่อยๆ สอดใส่ต่อ “โอ๊ย! ไม่ไหวพี่ เจ็บเหลือเกิน…” เก่งร้อง สะดุ้งสุดตัว ใช้มือดันหน้าอกพี่ชาติไว้ “เราตกลงกันแล้วนะ…” พี่ชาติทวงสัญญา
“เดี๋ยว…เดี๋ยวหลังบ้านของผมฉีก โอย…” เก่งรู้สึกคับแน่นไปหมด เหมือนร่างจะแยกระเบิดออกจากกัน “ทนอีกนิดน่า…” พี่ชาติพูดเสียงกระเส่า “ไม่ไหวครับพี่ อย่าทำผมเลย จะให้ผมทำอะไร…ผมยอมทั้งนั้น” เก่งยกมือไหว้ พลางส่ายศีรษะ ดิ้นเร่าๆ ภาพในอดีตผุดวาบขึ้นในมโนสำนึก เด็กหนุ่มได้ยินเสียงฝน ได้กลิ่นเหล้าเหม็นคละคลุ้ง ทั้งยังกลิ่นเหงื่อไคล…อันน่าขยะแขยง!
“พ่อปล่อยเก่งไปเถอะ สงสารเก่งเถอะนะ อย่าทำเก่งเลย…เก่งกลัว!” “อยู่เฉยๆ อย่าดิ้นสิ!” เสียงของพ่อดังก้องอยู่ในหู สลับกับเสียงของพี่ชาติ “พี่อยากได้หลังบ้านของต้น ต้นอยู่เฉยๆ สิ…อย่าดิ้น!” พี่ชาติไม่ฟังคำทัดทานของเก่ง พี่ชาติดันความเป็นชายพรวดเดียวจนสุดลำ ร่างของเก่งทะลึ่งพรวด จิกแขนผู้บุกรุก เก่งร้องออกมาสุดเสียงอย่างลืมตัวพร้อมๆ กับเสียงฟ้าคำรามเบื้องนอก “โอ๊ย!” ครืนนน… “เบาๆสิ…เดี๋ยวใครได้ยินกันหมด!”
พี่ชาติพูดเบาๆ รีบเอามือปิดปากเก่ง เก่งกัดฟันแน่น หน้าตาบิดเบี้ยว เหงื่อกาฬแตกพลั่ก ทั้งที่แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ
“โอย… พี่ไม่สงสารผมเหรอ? ไม่กลัวประตูหลังของผมพังเหรอ?” เก่งถามปนหอบ พี่ชาติไม่ตอบ คงขยับร่างกายท่อนล่างโดยไม่หยุดยั้ง ด้วยความเมามันในอารมณ์ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เก่งเองก็ไม่อาจปฏิเสธ ว่าเขาก็มีอารมณ์ร่วมด้วยเช่นกัน เป็นครั้งแรก ที่เขามีอารมณ์ร่วมกับแขก…..หรืออีกนัยหนึ่งคือเหยื่อ
บทรักของพี่ชาติ…ควรนับว่าไม่เลว! พี่ชาติกระแทกกระทั้นเก่งซ้ำๆ ก่อนจะร้องครางออกมาเสียงดังร่างแข็งเกร็งแกมสั่น เป็นสัญญาณว่าเขาลุถึงสวรรค์แล้ว พี่ชาติถอนความเป็นชายออกจากร่างของเก่ง เลือดสดๆ…เปรอะเปื้อนผ้าปูเตียงเป็นด่างดวง หนุ่มใหญ่ฟุบหน้ากับแผ่นอกของหนุ่มน้อย แม้จะเหนื่อยอ่อน หากยังมีแก่ใจถาม… “เจ็บไหมคนดี?” “ที่สุดในชีวิตเลยครับ” เก่งตอบ รู้สึกตึงๆ แสบๆ ร้อนๆ ประตูหลัง
“ขอโทษนะ…พี่ลืมตัว” พี่ชาติพูด ภายหลังที่พลิกตัว ดึงถุงยางอนามัยออกจากแก่นกาย พลันสีหน้าก็ซีดเผือดด้วยความตื่นตระหนก อุทานแทบไม่เป็นภาษาคน… “เฮ้ย…ถุงยางขาด ต้น! ต้น…เป็นเอดส์หรือเปล่า?” พี่ชาติละล่ำละลักถาม “มันไม่สายเกินไปหน่อยหรือครับ สำหรับคำถามนี้?” เก่งพูดยิ้มๆ ยิ้มของเก่งใสซื่อบริสุทธิ์ อดหัวเราะต่อกิริยาตื่นตระหนกของเหยื่อมิได้
“อย่าทำเป็นเล่นน่า… พี่ถามจริงๆ!” สีหน้าของพี่ชาติเคร่งเครียด หวาดวิตก “เปล่าครับ ไม่ได้เป็น พี่จะดูผลเลือดของผมไหมครับ อยู่ในเป้?” เก่งตอบด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “เฮ้อ…โล่งอกไปที!” พี่ชาติถอนหายใจ ยิ้มออกมาได้แต่เก่งกลับยิ้มกว้างยิ่งกว่า…เมื่อเห็นว่าหนุ่มใหญ่ไม่ติดใจสงสัย พี่ชาติหลับอย่างง่ายดาย คงเหน็ดเหนื่อยกับเกมรักที่ผ่านมา ดูเหมือนหนุ่มใหญ่ยังติดใจรสสวาทเมื่อครู่ เพราะเห็นบอกว่าจะขอเข้าหลังบ้านของเก่งอีก
แต่ตอนนี้ ขอนอนพักเอาแรงก่อน แต่!…ไม่มีวันเสียหรอก! เก่งกระชับมีดปลายแหลมในมือ… สืบเท้าเข้าหาพี่ชาติ ที่นอนหลับอยู่บนเตียง เสียงเครื่องปรับอากาศครางกระหึ่ม แต่ยังดังไม่เท่าเสียงกรนของพี่ชาติ ที่ดังเป็นจังหวะ อย่างสม่ำเสมอ! “ต้นเคยได้ข่าวเกย์ถูกฆ่าชิงทรัพย์ไหม?” เสียงของพี่ชาติดังก้องอยู่ในหู “ก็เกย์แบบพี่นี่แหละ…พาเด็กไปนอน พอหลับนอนกันเสร็จก็ถูกฆ่า เอาของไปเกลี้ยง”
“แล้วพี่ไม่กลัวหรือครับ?” “กับต้น พี่ไม่กลัวหรอก…พี่รู้ว่าต้นไม่ใช่คนแบบนั้น จริงไหม?” เก่งนึกถึงสร้อยคอ เลสข้อมือ แหวน นาฬิกา ปากกา ยังไม่นับรวมเงินสดอีกเป็นหมื่น แต่เปล่าเลย… เก่งไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์ ทรัพย์ที่เก่งได้จากเหยื่อคนก่อนๆ มันมากพอ…ที่จะให้เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย เก่งเกลียดเกย์ ชีวิตของเก่งต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะเกย์ เก่งจะฆ่าเกย์ทุกคนบนโลกนี้!
นัยน์ตาคู่งามของเก่งเปลี่ยนเป็นอาฆาตแค้น ขอบตาเต้นระริก ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นภายใน ใครที่ทำให้เก่งเจ็บ มันต้องชดใช้อย่างสาสม! เก่งหยุดยืนข้างเตียง เงื้อมีดขึ้นสุดแขน “ลาก่อนครับพี่ชาติ…” เด็กหนุ่มพูดลอดไรฟัน ก่อนจะทิ้งแขนลงอย่างสุดแรง ฉึก! เสียงคมมีดทะลุที่นอน พี่ชาติพลิกตัวหลบ พร้อมกับดีดตัวกระโจนเข้าหาเก่ง…ดุจพยัคฆ์ตะปบเหยื่อ จับแขนข้างที่ถือมีดของเก่งบิดไพล่หลัง ตามหลักของศิลปะการต่อสู้
เก่งหน้าหงาย หน้าอกแอ่น มีดหลุดจากมือ “โอ๊ย!” เก่งส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด พร้อมๆ กับฉุกคิดถึงสิ่งที่ค้างคาใจ…แววตาของพี่ชาติ เก่งเพิ่งนึกออกเดี๋ยวนี้เอง แววตาของพี่ชาติ…เหมือนแววตาของตำรวจนั่นเอง! “เกมโอเวอร์แล้วไอ้หนู!” พี่ชาติพูด “อั๊ว… พ.ต.ท. สุชาติ สารวัตรสายสืบกองปราบ หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามอาชญากรรมทางเพศ อั๊ววางแผนตั้งนาน กว่าจะได้เหยื่ออย่างลื้อมาติดกับ”
เก่งหัวเราะอย่างไม่สะทกสะท้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้สื่อข่าวมาถึง สารวัตรสุชาติคนเก่ง คุมตัวเด็กหนุ่มออกมาแถลงต่อหน้าผู้สื่อข่าว “นี่แหละ…โฉมหน้าฆาตกรที่ลวงเกย์ไปฆ่าชิงทรัพย์มานับ ๑๐ ราย เก่งถูกใส่กุญแจมือไพล่หลัง ใบหน้าของเด็กหนุ่มยังคงยิ้มละไม เป็นรอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา รอยยิ้มที่คร่าชีวิตของเกย์มานับ ๑๐ ราย! “ถูกจับยังไม่สลด ยังมีสีหน้ายิ้มระรื่นอีกนะเรา”
สารวัตรสุชาติหรือพี่ชาติของต้นพูด เก่งหัวเราะ แววตาเย้ยหยัน “ทำไมต้องสลดด้วยล่ะ? ถึงศาลไม่ประหาร ผมก็ต้องตายอยู่ดี ไม่เชื่อ…พี่ชาติลองดูผลเลือดในกระเป๋าของต้นซิ” “ผมจะบอกอะไรให้นะท่านสารวัตรคนเก่ง.. ตอนผมสวมถุงยางให้ท่านน่ะ… ผมแอบฉีกมันก่อนแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองจึงแนบชิดสนิทแน่น…ยิ่งกว่าอะไรเสียอีก!”เก่งระเบิดเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ขณะที่สารวัตรสุชาติหน้าซีดเผือด ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้สื่อข่าว
ไม่มีต่อหรอ
นี้เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วแบบ..เอิ่มไม่สนุกอะ
ออกแนวเบียวๆเนอะ5555