ผมได้แฟนหมกมุ่นเสียแล้วสิ
สวัสดีครับ GayStory.xyz ผมชื่อ “ต้อง” เรื่องที่ผมจะเล่าให้ทุกๆ คนฟังคือเรื่องราวของผมกับ “ไอ้แมน” เพื่อนสนิทที่ไม่คิดว่าวันหนึ่งเราสองคนจะมาคบกันเป็นแฟนแบบจริงจังขนาดนี้ จนตอนนี้ก็ร่วม 4 ปีแล้วครับ ซึ่งเรื่องมันเกิดขึ้นจากความเจ้าเล่ห์ของไอ้แมนล้วนๆ เลยครับ
เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ ม.1 โรงเรียนชายล้วนในตัวจังหวัด แน่นอนว่าเพราะเรียนมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ ความสนิทสนมของเราทั้งคู่มันเลยพัฒนาไปเรื่อยๆ จนเริ่มเป็นวัยรุ่น เราต่างก็ยังไม่มีแฟน แล้วก็โดนผู้ชาย แห่งโรงเรียนชายล้วนนั้นมาจับจิ้นว่าเป็นแฟนกัน ซึ่งมันก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังทำตัวสนิทมากกว่าเดิม แล้วมันก็ไม่มีแฟนจริงๆ ทั้งๆ ที่มีสาวๆ มาจีบมันเยอะมากๆ
จนวันหนึ่ง ผมก็ถามมันว่า “ทำไมมึงไม่ยอมมีแฟนวะ ?” “ก็คนเขาให้กูเป็นแฟนมึงอยู่ มึงจะให้กูนอกใจเหรอวะ ?” เอาจริงๆ ก็ยอมรับว่าเขินๆ เหมือนกันครับ ความใกล้ชิดที่มีมาตลอด ทำเอาผมแพ้มันไปบ้าง หลายๆ ทีก็แอบคิดว่ามันหล่อเหมือนกัน ยิ่งตอนไปนอนบ้านมันแล้วต้องเบียดกันในผ้าห่มผืนเดียวกันนี่ผมเองเริ่มหวั่นไหวแปลกๆ จนสุดท้ายก็รู้ว่าหลงรักไอ้แมนแล้วไงงานนี้ ซึ่งพอมันตอบมาแบบนี้ผมเองก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน…
“เอ้าเชี่ย…อย่าเงิบดิ ทำไมวะ ถ้าเกิดว่าเป็นแฟนกูจริงๆ มันไม่ดีมึงก็ประกาศยกเลิกคู่จิ้นไปเลย” “เออได้…” ผมบอกมันไปแบบนั้น ทำท่าโกรธๆ ไป ผมสังเกตว่ามันดันมีอาการเศร้าจริงๆ ที่ผมเดินออกมาในตอนนั้น ผมเลยแกล้งลองใจมันดู ไม่ทักไปคุยเหมือนเดิม ไม่กินข้าวด้วยกัน ไม่เลิกเรียนพร้อมกัน จนหลายๆ คนคิดว่าคู่จิ้นมโนนั้นมันพังไปแล้วจริงๆ แต่ความจริงแล้ว อีก 5 วันจะถึงวันเกิดมัน
ผมลงทุนหยุดเรียนในวันนั้นเลย เพื่อแอบมาที่ห้องมันแล้วแต่งห้องมันรอวันที่มันจะกลับมา โดยเรื่องนี้พี่สาวของไอ้แมนนั้นได้รู้เห็นเป็นใจด้วย พอมันกลับมาผมก็เอาเค้กมารอมัน ร้องเพลงให้มัน แต่ไอ้แมนแม่งเสือกปัดเค้กทิ้งลงพื้นไปหมดเลย แล้วดึงผมเข้ามากอด มันโวยวายฟูมฟายไม่เป็นภาษาแต่โดยรวมคือไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงห่างออกมา ผมเลยบอกมันว่า เราไม่ได้เป็นคู่จิ้นกันเล้ว
“แต่กูอยากเป็นคู่จริง…” ผมบอกแบบนั้น เชื่อไหมว่ามันดีใจมากกว่าการที่ผมซื้อเค้กปอนด์เบ้อเริ่มมาให้มันอีก เราเปิดตัวคบกันอย่างเปิดเผย พ่อแม่ของพวกเรารู้ดี แต่แล้ววันนึง ที่มันไปออกทริปทำบุญกับเพื่อนๆ ผมแล้วไม่ได้ไปด้วย ไอ้แมนประสบอุบัติเหตุ จนแขนหักทั้งสองข้างต้องใส่เฝือก สลบไปสามวัน พอรู้ว่ามันฟื้นขึ้นมาผมก็ไปเยี่ยมมันทันที พ่อแม่มันขอตัวลงไปกินข้าว เหลือแค่เพียงผมกับมันสองคน งานนี้ไอ้แมนหงอเลยทีเดียวเพราะเจ็บหนัก
เราพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ตามประสาคนเพิ่งคบกัน เราไม่รู้ว่าจะเริ่มอะไรยังไงดี จนอยู่ๆ มันก็พูดอะไรทะลึ่งๆ ออกมา “เชี่ย…กว่าเฝือกจะหาย เอาน้ำออกยังไงวะกู” “สมน้ำหน้า…เก็บไว้ให้มันจุกอกตายนั่นแหละ” ผมอมยิ้ม คิดแล้วก็ขำตามเหมือนกัน “ทำไมพูดงี้วะ… แล้วแบบนี้กูจะมีแฟนไว้ทำไม ?” “อะไรยังไง ?” ผมมองหน้ามันงงๆ “อย่าบอกนะว่า…” “ไปปิดประตู ให้หน่อย” มันทำเสียงอ้อน “กว่ามึงจะมาหากูอ่ะ น่านะ ทำให้หน่อย…”
“ไว้กลับบ้านก่อนไหม ?” “ก็กูเจอหน้ามึงตอนนี้ ก็เงี่ยนตอนนี้อะ” มันพูดหน้าตาเฉย “ไปล็อคประตูเลย…ขอร้องนะที่รักครับ นะๆ ที่รักของไอ้แมน” “มึงนี่มัน…” ผมทำท่าฟึดฟัด แต่จริงๆ ในใจก็รู้สึกนั่นแหละ ว่าอยากจะทำให้มัน เราคบกัน มากสุดก็แค่จูบกัน งั้นครั้งนี้คงเป็นครั้งที่เราเกินเลยกันมากที่สุด ผมเดินไปล็อคประตู แล้วเดินกลับมานั่งข้างๆ เตียง ค่อยๆ ปลดกางเกงคนไข้ออกช้าๆ รู้ว่าไอ้แมนมันควยแข็งตั้งแต่อยู่ในผ้าห่มแล้ว
ดุ้นเอ็นของไอ้แมนใหญ่เกินตัวจริงๆ ควยใหญ่กว่าผมด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้เวอร์เกินไป ขนาดพอดีมือ มีเส้นเอ็นรอบๆ หัวบานชมพูสวย มันเป็นคนผิวขาวอยู่แล้ว ทำให้เนื้อหนังส่วนท่อนเอ็นนี้ดูสะอาดสะอ้านไปด้วย ผมเขินๆ ที่จะจับมันมาช้าๆ แล้วรูดรั้งให้ส่วนปลายสีชมพูระเรื่อโผล่ขึ้นมา เพียงแค่ผมเลื่อนมือลง ให้ส่วนหัวโผล่พ้นส่วนนอกที่หุ้ม น้ำผึ้งสีขาวใสก็ไหลเยิ้มส่วนปลายจากร่องเสียวแล้ว
“เชื่อแล้วว่า…ของขาด” ไอ้แมนมองหน้ามองยิ้มๆ “ถ้ากูไม่ป่วยนะ…มึงไม่รอดกูแน่” “กูจะรอ…” ผมพูดพร้อมๆ กับค่อยๆ ชักว่าวให้มันไปเรื่อยๆ มันทิ้งตัวลงนอน แล้วปรับเตียงให้เอนขึ้นพอประมาณ ถ่างขาออกแล้วหลับตาพริ้มในช่วงจังหวะที่ผมค่อยๆ กำกอบแก่นกายนั้นแน่นขึ้น แล้วรูดแรงขึ้น เร็วขึ้น ถี่ขึ้น สลับกับการหมุนมือเป็นวงกลมรอบๆ ลำนั้น แล้วใช้ปลายนิ้วไล้วนไปรอบๆ ส่วนปลาย ยิ่งเร็ว ใบหน้าผมก็ยิ่งใกล้ส่วนนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมรู้สึกว่าอารมณ์กำลังจะเลยเถิดไปแล้วจริงๆ
“อาห์…โอย ชักเสียวว่ะ ไม่คิดเลยว่ามือคนอื่นจะเสียวขนาดนี้ ยิ่งเป็นมือมึงยิ่ง…โอยยยแม่ง เสียว!” ลมหายใจของมันไม่เป็นจังหวะ หน้าท้องกระเพื่อมไหว ผมเร่งความเสียวของมันด้วยการสอดมืออกข้างเข้าใต้เสื้อ แล้วใช้หลายนิ้วหยอกล้อกับเนินอกของมันที่กำลังแข็งเป็นไต มือหนึ่งก็ลูบไล้ อีกมือหนึ่งก็ชัก เสียงครางของมันทำให้ผมแทบครั้ง ยิ่งมันคราง ผมก็ยิ่งชอบใจ รู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีมากๆ
“อูยยยย…โอย เสียว แม่งเอ๊ย…” แมนกัดฟัน ผมค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้เตียงมันเรื่อยๆ จนไม่นานก็รู้สึกว่า มือที่ใส่เฝือกของมันมาวางบนหัวผมเมื่อไหร่ไม่รู้…” “ถ้าเมื่อยมือ…ใช้ปากก็ได้นะครับ ที่รัก…ซี้ดดด” ผมมองหน้ามันเคืองๆ แต่ให้ตายเถอะ อารมณ์ที่เกิดขึ้นมันทะลุปรอทไปแล้ว ผมไม่รอช้า รีบอ้าปากอมควยให้มันทันที ทั้งดูด ทั้งดุน ทั้งเลีย มือก็ชักไปหมุนไปรอบๆ
รสชาติน้ำหวานที่ไหลเยิ้มของมันหวานปะแล่ม ยิ่งเพิ่มอารมณ์ให้ผมตอนที่เลื่อนปากขึ้นลงไปเรื่อยๆ สลับทั้งอม ทั้งดูดให้ ทั้งเลียไล้ไปรอบๆ ลำแก่นกายที่แข็งขึ้นมาอีก แล้วไล้ปลายลิ้นที่ลูกบอลทั้งสอง ดูดดุนสลับซ้ายขวา ดังโบล๊ะ “โอ๊ยยย… เสียว จะไม่ไหวแล้วครับ เสียว โอยยย…” ยิ่งเขาเสียว ผมก็ยิ่งเร่งจังหวะมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็ถึงจุดสุดยอดโดยที่ไม่บอกผมเลยสักคำเดียว
แมนปลดปล่อยน้ำรักออกมาปริมาณมาก ผมแทบสำลักแล้วกำลังจะอ้าปาก แต่มันก็พูดดักขึ้นมาก่อน “ซี้ดดดด…คายไม่ได้นะ ถ้าชุดเปื้อนคนอื่นรู้แน่” ผมเงยมองหน้ามันเคืองๆ ตอนที่กำลังอมน้ำรักของมันเอาไว้ในปาก “ของดีนะ… กลืนสิครับคนดี” มันยิ้มมองผมด้วยความเจ้าเล่ห์แบบสุดๆ แต่ตอนนี้รสหวานของมันเต็มปากไปหมดแล้ว ผมจึงจำเป็นต้องกลืนน้ำรักของมันลงคอไปอย่างไม่ยากลำบากนัก
ดูดกินส่วนที่ค้างคาจนหมด ก่อนจะเอาทิชชู่มาทำความสะอาดให้จนเสร็จสรรพ แล้วมันก็ให้ผมมานั่งจับมือมันนิ่งๆ “ขอโทษนะ…ที่ไม่ได้ทำให้” มันพูด “ถ้ากูหาย…เดี๋ยวกูทำให้นะ” ผมยิ้ม “กูให้มึงทำแน่…แต่ไม่ใช่แค่อมหรอก” “ไอ้ต้อง…มึงกำลังทำให้กูอยากหนีโรงบาลนะ” “ของดีก็ต้องรอป่ะ…ไว้หายดีแล้ว มาทำกันนะ อยากเป็นของมึงจะแย่แล้วว่ะ” “อื้ม…”
มันพยักหน้ารับอย่างไว ก็นั่นแหละครับ จุดเริ่มต้นของผมกับไอ้แมนจอมเจ้าเล่ห์ ทันทีที่มันถอดเฝือก มันก็จัดการกินผมซะเรียบเลย จนตอนนี้ 4 ปีแล้ว มันก็ยังกินเช้ากินเย็นจนผมรู้สึกว่าได้แฟนหมกมุ่นเสียแล้วสิ แต่ก็ช่างมันเถอะ…
ผมก็สมยอมเองนั่นแหละครับ!